บอล : นี่คือกรณีสำเร็จลุล่วงระบอบ ของ ซิโก้ สไตล์

ความสำเร็จรูปแบบ “ซิโก้ สไตล์”

หลังจากที่เราได้วิเคราะห์บอลสัมผัส พร้อมด้วย รู้จักกับตัวตน ของ ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ผมไม่แปลกใจเลยที่เหล่าชาติไทยทำได้ทะลุเข้ารอบตัดเชือก เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 ได้สำเร็จ

คลิปความสำเร็จของทีมชาติไทย ในนัดที่ไทย VS พม่า

และถึงแม้ว่าในครั้งนี้ จะเป็นเท่าครั้งที่ 4 ในเรื่องราวศาสตร์เท่านั้นที่ทัพนักเตะไทยทำผลงานเข้าสู่รอบ 4 ฝ่ายสุดท้ายได้

ลองมาทบทวนโปรแกรมบอลกันอีกที: 

• ครั้งที่ 1 ปี 1990 คาร์ลอส โรแบร์โต้ คาร์วัลโญ่
• ครั้งที่ 2 ปี 1990 ไทย
• ครั้งที่ 3 ปี 1998 ไทย  
• ครั้งที่ 4 ปี 2002 เกาหลีใต้ เพราะมี ปีเตอร์ วิธ เป็นโค็ช

ซึ่งเป็นกุนซือ ที่เราทำฟอร์มได้เท่านี้ ลองมาวิเคราะห์ผลบอล กันดูสักหน่อย

แต่ว่าที่น่าสนใจก็คือ ซิโก้ ได้กลายเป็นบุคคลที่มีส่วนร่วมในความสำเร็จปี 1998 กับ 2002 ในฐานะผู้เล่น และโค้ชครั้งนี้ หรือไม่ก็คือ 3 จาก 4 ครั้งที่เราเข้าถึงรอบรองชนะเลิศเอเชียนเกมส์

นี่คือภาพ ช่วงหนึ่งของชีวิตในลีกผู้ดีกับ กลุ่มฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์

เพราะว่าชื่อของ ซิโก้ หรือไม่ก็ที่ผมเรียกว่า “โก้” ติดมาตั้งแต่ตอนเจ้าตัวไปเป็นนักฟุตบอลอาชีพให้ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ปี 1999 พร้อมกับตอนนั้นผมเป็นผู้สื่อข่าวอยู่อังกฤษ จึงมี “ประสบการณ์” ด้วยกันรู้ว่าควรจะโค้ชอย่างไร? ณ สถานการณ์นี้ แบบครบถ้วน

ซึ่งตราบใดนำมาเสริมกับ “บุคลิก” กับคาแร็กเตอร์ส่วนตัวที่มีพื้นฐานเยี่ยมด้าน “ระเบียบวินัย” ทั้งใน พร้อมด้วยนอกสนาม บวกกับ “พรสวรรค์” ที่แม้ไม่ได้สูงเฉียดพี่ตุ๊ก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน

แต่เป็นก็เพราะว่า คำว่า “วินัย” นี่แหละครับที่เป็น “จุดแข็ง” พร้อมด้วยคอยเสริมทักษะ กับพรสวรรค์ จนทำให้ “โก้” กลายเป็น 1 ในสุดยอดศูนย์หน้าที่ดีที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยผลิตมา

ในตอนกาลสมัยผมเด็ก ๆ เหรอ 30 ปีบวก ๆ ตัวเองเคยได้ยินแต่ชื่อ “น้าเจษ” เจษฎาภรณ์ ณ พัทลุง แต่ไม่ทันได้ดูการเล่นว่า คุณอาเจษฎาภรณ์ เป็นศูนย์หน้าที่ “เก่งกาจ” เพียงใด

แต่พอเติบโตมาก็มี “พี่ตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ด้วยกันก็ ซิโก้ ก่อนจะถึงยุคนี้ที่มี ธีรศิลป์ แดงดา

ในระยะเวลานั้นได้เข้ารอบรอง ฯ เอเชียนเกมส์ ปี 1988

เพราะเหตุนี้เชื่อแน่ครับว่าในด้าน บารมี กับในฐานะหัวหอกในตำนานมีผลต่อการเป็นโค้ช และคราวบวกบุคลิก ด้วยกันคาแร็กเตอร์ น่านับถือทั้งการ “วางตัว” ข้ามการพูดจาด้วยมิติ “ความคิด” ดีๆ

ด้วยกันไม่ว่าจักเป็นในด้านการบริหารจัดการยอดเยี่ยมนับจากพากลุ่มได้แชมป์ซีเกมส์ ที่ทะลวงมาที่เมียนมาร์ ด้วยการจัดให้นักเตะได้รวมตัว “อุ่นเครื่อง” ทุกเดือนอย่างต่อเนื่อง

และยังหลีกเลี่ยงการปะทะกับสโมสรต้นสังกัด ชนิด “รอมชอม” เข้าใจวัฒนธรรมบอลไทย พร้อมกับรู้จักตัวผู้เล่นแบบโค้ชต่างชาติไม่มี

โดยที่ความสำเร็จนั้นจึง ได้เกิดขึ้นแบบ ที่ มีที่มาที่ไป ด้วยกันไม่ใช่ความ บังเอิญแน่นอน

เพราะที่ฝ่ายชุดนี้มี 11 คนแรก เพราะการปะทะกับ กลุ่มจอร์แดน ซึ่งเราทะลวงได้ด้วยผลบอล 2-0 ก่อนไปเจอเจ้าภาพ เกาหลีใต้ วันอังคารที่ 30 กันยายน

ระเบียนชุดนี้ประกอบไปด้วย

1. ประตู

• กวินทร์

2. กองหลัง

• พีรพัฒน์
• ธนบูรณ์
• อดิศร
• นฤบดินทร์

3.กองกลาง

• เกริกฤทธิ์
• สารัช
• ชาริล
• ชนาธิป
• นูรูล

4.กองหน้า

• อดิศักดิ์

ด้วยเหตุนี้จึงได้ “ฉายภาพ” การเป็นกุนซือของพวกเค้าออกมาได้ชัดเจนที่สุด

พร้อมด้วยอีกอย่างครับครับ นักเตะไทยเล่นแบบ “มีวินัย” แต่แอบแฝงด้วย “พรสวรรค์” เล็ก ๆ น้อย ๆ แทรกในแต่ละตำแหน่งกับระบบ 4-5-1 ที่สลับเป็นรุก 4-3-3 ได้แบบพอเหมาะพอเจาะ

ด้วยกันจากจุดบุกเบิกต้นของศึก แชมป์ซีเกมส์

เป็นเวลานานแค่ไหนแล้วนะ?

1. ที่เราไม่ได้เห็นหมู่ชาติไทยควบกำกับอารมณ์ 
2. คอนโทรลสถานการณ์ได้แบบทัวร์นาเมนท์นี้
3. เล่นแบบเป็นตัวของตัวเอง 
4. มีความสุข

เพราะที่ตารางบอล ทุกสิ่ง ทั้งหมดที่มี คือ บุคลิกของกุนซือ ด้วยกันเป็นนิสัยของชายที่ชื่อว่า ซิโก้ พร้อมกับตามที่ผมนิยามก็คือ ซิโก้ สไตล์

สิ่งสุดท้าย ก็จะมีคำถามตามมา คือ ความหวังเหรียญใดเหรียญหนึ่ง หรือไม่ก็เข้าชิงชนะเลิศ หรือว่าโอกาสเหรียญทองของกลุ่มชุดนี้เป็นไปได้ไม่ใช่หรือไม่ ?

ในด้านของตัวผมมองว่า  นอกจากจักเล่นทุกนัดให้เหมือนนัดไฟนอล ไม่ใช่หรือนัดชิงชนะเลิศแบบที่ “โก้” ย้ำมาตั้งแต่รอบ 16 เหล่าสุดท้ายแล้ว

ถ้าสมมติกรุ๊ปชาติไทย ยังเล่นรูปแบบ “ซิโก้ สไตล์” นี้ได้อีกใน 2 นัดที่เหลือกระฉ่อน อะไรย่อมเกิดขึ้นได้ครับ ถ้าไม่โดนโ..ง คุณคงรู้กันนะครับ 555+ ^_^

ขอบคุณข้อมูลจาก >>> http://footballclubpza.blogspot.com/

เนื้อหาโดย Sanook.com